6 HOW TO : สระผมให้สวย ไม่ร่วง ไม่พัง
วิธี สระผมให้ผมสวยสุขภาพดี หมดปัญหาผมพัง ผมร่วง
เคยมั้ย ? อาบน้ำสระผมแต่ละทีน้ำแทบท่วมห้องน้ำเพราะเส้นผมอุดตันท่อ
ปัญหาโลกแตกเกี่ยวกับเส้นผมที่เราพบเจออยู่ในทุกๆ วัน ไหนจะผมร่วง แห้งเสีย ชี้ฟู เป็นรังแคเอยอะไรเอย เยอะแยะเต็มไปหมด ! แชมพูตัวไหนเขาว่าดีก็ลอง ครีมนวดทรีทเมนต์ที่เขาว่าเด็ด ก็สอยตามมาใช้เต็มไปหมด แล้วผลลัพธ์ที่ได้ล่ะ ? ปัญหาที่แก้ยังไงก็ไม่หายขาดสักที แค่ลองเปลี่ยนวิธีสระผมที่ทำกันอยู่ในทุกๆ วัน ก็อาจเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำให้เส้นผมของคุณสวย สุขภาพดีได้
เรามีวิธีสระผมมาแนะนำให้ทุกคนลองทำตามกัน ไปลองดูกันเลย !
1.หวีหรือสางผมก่อนสระทุกครั้ง
เริ่มต้นวิธีแก้ผมร่วงง่ายๆ ด้วยการหวีผมหรือแปรงผมกันก่อน !
สิ่งแรกที่เราควรทำก่อนจะเริ่มการสระผมที่ทุกคนควรจำเลย คือ การหวีผมหรือสางผมของเรานั่นเอง หยิบหวีขึ้นมาแปรงผมก่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นการช่วยขจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกจากมลภาวะต่างๆ ที่อยู่บนหนังศีรษะและเส้นผมที่เราเผชิญมาตลอดทั้งวัน ให้หลุดออกไปเป็นอันดับแรกก่อน การหวีผมหรือสางผมก่อนสระผมนั้นยังเป็นการช่วยลดปัญหาการเกิดผมพันกันขณะสระผม และยังเป็นการช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมขณะสระผมได้อีกด้วย
2.ล้างผมด้วยน้ำเปล่าก่อนลงแชมพู
เปิดน้ำสะอาดล้างหนังศีรษะและเส้นผมให้สะอาดช่วยล้างฝุ่นได้ถึง 80%
หลังจากหวีผมเสร็จแล้วแนะนำให้ ล้างผมด้วยน้ำเปล่ากันก่อนที่จะเริ่มลงแชมพูทำความสะอาดเส้นผม ในขั้นตอนการล้างผมด้วยน้ำเปล่า เป็นการช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนหนังศีรษะและบนเส้นผมออกได้มากเลยทีเดียวและยังเป็นขั้นตอนสำหรับเตรียมหนังศีรษะและเส้นผมให้พร้อมก่อนที่เราจะลงแชมพูในลำดับต่อไป ซึ่งการล้างผมนั้น ไม่ใช่แค่ทำให้เปียกหมาดๆ หรือเปียกแค่นิดหน่อยก็พอ แต่ต้องล้างผมแบบจริงจัง โดยล้างน้ำให้ทั่วทั้งหนังศีรษะและเส้นผม ต้องให้เส้นผมเปียกเหมือนเป็นการสระผมด้วยน้ำเปล่ากันไปเลย !
ซึ่งการล้างผมด้วยน้ำเปล่านั้น หากคุณเป็นคนที่มีหนังศีรษะแห้ง ไม่ควรล้างผมหรือสระผมด้วยน้ำอุ่น ควรใช้เป็นน้ำเย็นหรือน้ำที่เป็นอุณหภูมิห้องไม่ผ่านเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเครื่องทำความร้อนใดๆ เพราะการล้างผมหรือสระผมด้วยน้ำอุ่นนั้นจะทำให้หนังศีรษะของคุณแห้งหนักกว่าเดิมและเป็นจุดเริ่มต้นของอาการคัน และมีรังแคตามมา แต่หากคุณมีหนังศีรษะมัน การใช้น้ำอุ่นจะเป็นการช่วยเปิดรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะ ทำให้การล้างสิ่งสกปรก หรือฝุ่นทั้งหลายที่เกาะตามเส้นผมและหนังศีรษะของคุณหลุดร่อนไปได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้เราก็ผ่านมา 2 ขั้นตอนแรกแล้ว ซึ่งเป็นขั้นตอนสำหรับเตรียมความพร้อมให้กับหนังศีรษะและเส้นผมของเรา ไล่เศษฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เราสะสมกันมาตลอดมาทั้งวันอย่างไม่ได้ตั้งใจให้ออกไปจากหนังศีรษะและเส้นผมของเราก่อน และก็มาต่อกันที่ขั้นตอนต่อไปกันเลย !
3.เทแชมพูใส่มือเพื่อตีฟอง
เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผมแบบล้ำลึกกันแล้ว ใครที่ติดนิสัย ชอบบีบแชมพูลงบนหนังศีรษะและเส้นผมโดยตรง หรือ เทแชมพูใส่มือและโปะเข้าไปบนหัวตรงๆ แล้วขยี้ๆ ถูๆ ให้เกิดฟอง บอกตรงนี้เลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก ! แนะนำให้เปลี่ยนหรือเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นด่วนๆ เพราะการทำแบบนั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผมขาดหลุดร่วงได้
วิธีที่เราควรจะทำ คือ เทแชมพูใส่ลงในมือ แล้วถูหรือตีแชมพูให้เกิดฟองขึ้นมาตั้งแต่บนมือของเรานั่นเอง เอามือสองข้างประกบกันแล้วถูวนๆ จนเกิดฟองขึ้นมา จากนั้นค่อยชโลมลงบนหนังศีรษะและเส้นผมของเรา ใครที่ตีฟองไม่ขึ้น สามารถใช้ตาข่ายตีฟองช่วยได้ แถมยังทำให้เกิดฟองมากกว่าเราใช้มือตัวเองถูๆวนๆ อีกด้วยล่ะ !
หลังจากที่เรานำฟองแชมพูที่เราถูหรือตีอย่างเพลิดเพลิน มาชโลมบนหนังศีรษะและเส้นผมของเราเรียบร้อย มือของเราก็จะเริ่มเกา เกาและเกาหนังศีรษะ ยิ่งเกาแรงยิ่งสนุก สะใจ เหมือนที่เวลาเราไปร้านทำผม ให้ช่างสระผมให้ คำถามที่เรามักเจอเป็นประจำจากช่างคือ “เกาไหมคะ” แล้วสาวสายเกาอย่างเราจะรออะไรล่ะ ตอบกลับทันทีอย่างมั่นใจ “เกาเลยค่ะ” ยิ่งเกายิ่งเพลินยิ่งรู้สึกว่าหนังศีรษะของเราสะอาด ซึ่งนี่เป็นความเข้าใจผิดๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ! เพราะการทำแบบนั้นเป็นการทำร้ายหนังศีรษะและเส้นผมของเรา อาจทำให้หนังศีรษะเกิดอาการอักเสบได้ และตามมาด้วยปัญหาหนังศีรษะแดง ลอก หรือเป็นแผล เป็นที่มาของสาเหตุที่ทำให้เส้นผมขาดหลุดร่วงอีกด้วย
สิ่งที่เราควรจะทำคือ การนวดหรือการคลึงหนังศีรษะ เบาๆ ค่อยๆ ใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของเราถูวนๆ นวดๆ บนหนังศีรษะของเราช้าๆ อย่ารีบใจร้อนจนเกินไป คุณต้องให้เวลากับขั้นตอนนี้กันสักนิด เพราะนอกจากจะเป็นการชำระล้างความมันของหนังศีรษะและขจัดสิ่งสกปรกทั้งหลายแล้ว การนวดศีรษะนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงไม่ขาดร่วงง่ายอีกด้วย !
4.ใช้ครีมนวดผมหรือทรีทเม้นต์แค่เฉพาะปลายผมเท่านั้น
เชื่อว่าหลายๆคนยังคงไม่รู้วิธีใช้ครีมนวดผมหรือทรีทเม้นต์บำรุงผม ที่ถูกต้องหรือเหมาะสมกันจริงๆขั้นตอนการใช้ครีมนวดผมนั้นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ อีกขั้นตอนนึงเลยที่จะช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้มีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ลดการพันกัน และขาดหลุดร่วงของเส้นผมด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่รู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง มันก็อาจจะกลายเป็นทำลายหนังศีรษะและเส้นผมของเราแทน !
ดังนั้นวิธีการลงครีมนวดผมที่ถูกต้อง คือ อย่าชโลมครีมนวดผมบริเวณโคนผมและหนังศีรษะเยอะๆ เพราะเข้าใจว่าทำให้บำรุงผม ผมนุ่มลื่น ควรจะใช้นวดแค่เฉพาะบริเวณปลายผมเท่านั้น ไม่ควรเทมาใช้จนเยอะเกินไป เพราะอาจจะทำให้ตัวครีมนวดผมยังเหลือตกค้างอยู่บนเส้นผม ถ้าหากล้างออกไม่สะอาดหรือล้างไม่หมด ก็ถือว่าไม่เป็นผลดีต่อหนังศีรษะและเส้นผมเช่นกัน และที่สำคัญควรระมัดระวังไม่ให้ครีมนวดผมสัมผัสกับโคนผมหรือหนังศีรษะ ทั้งตอนกำลังนวดผม และตอนล้างครีมนวดออก เพราะครีมนวดที่โดนและสัมผัสกับโคนผมหรือหนังศีรษะนั้น ไม่ได้ยิ่งช่วยให้เส้นผมของคุณ นุ่มสลวย สวยเก๋ขึ้นแต่อยางใด แต่กลับไปช่วยเพิ่มน้ำมันที่บริเวณหนังศีรษะและโคนผมให้มากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาผมมัน เหนียวเหนอะ เส้นผมฟีบลีบแบน จนแทบจะต้องสระผมกันเช้า-เย็นเลยในบางคน !
Trick เพิ่มเติม ! โดยก่อนที่จะเริ่มชโลมครีมนวดผมลงบนเส้นผม แนะนำว่าให้ล้างผมจากแชมพูสระผมให้สะอาดก่อนจากนั้นก็ตามด้วยบิดผมให้หมาดๆ เอาน้ำออกจากเส้นผมกันสักเล็กน้อย แล้วค่อยชโลมครีมนวดผมลงที่ปลายผมของคุณ และทิ้งไว้สัก 5-10 นาที (หากใช้เป็นทรีทเม้นต์บำรุงผม ควรทิ้งไว้ประมาณ 10- 20 นาที) แล้วเมื่อทิ้งครีมนวดไว้ได้นานพอจนครบเวลาที่เรากำหนดแล้ว ให้ล้างครีมนวดผมออกด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขนที่เปิดออกขณะสระผม ! เท่านั้นก็ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้นุ่มลื่นน่าสัมผัสกันได้แล้ว
5.ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด
ก้มหัวแล้วล้างจากท้ายทอยลงมาด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
มาถึงขั้นตอนเกือบสุดท้ายกันแล้ว ! ขั้นตอนการล้างน้ำเปล่าให้สะอาด วิธีการล้างฟองแชมพูและครีมนวดผมที่ปกติเรามักจะใช้กันโดยทั่วไป มีอยู่ 2 แบบ 1. เงยหน้าขึ้นแล้วล้างน้ำ ปล่อยให้น้ำไหลผ่านใบหน้าและลำตัว 2.ก้มหน้าก้มหัวลง แล้วใช้น้ำล้างจากทอยท้ายขึ้นไป
วิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมคือ วิธีที่ 2 การก้มหน้าก้มหัวลงมาแล้วใช้น้ำเปล่าล้างจากท้ายทอยขึ้นไปด้านบน (เป็นการล้างสวนทางจากทิศทางปกติที่เส้นผมขึ้นนั่นเอง) เพราะแชมพูโดยส่วนมากจะไหลลงมารวมกันที่ท้ายทอยมากที่สุด ควรล้างให้ทั่วทั้งหนังศีรษะ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที หรือจนกว่าฟองแชมพูจะหมด ให้เวลากับขั้นตอนในการล้างทำความสะอาดกันสักนิด อย่าปล่อยให้มีคราบฟองแชมพูหลงเหลือไว้ เพราะไม่งั้นแชมพูจะกลายเป็นสารตกค้างที่หนังศีรษะและเส้นผม อาจทำให้เกิดอาการแพ้ คัน ลอกเป็นขุยและผมหลุดร่วง
สาเหตุที่ไม่แนะนำให้เงยหน้าแล้วล้างแชมพู เนื่องจาก เวลาเราสระผม พวกฟองแชมพูรวมไปถึงสารต่างๆ จะไหลลงไปรวมกันมากที่สุดที่บริเวณท้ายทอย เวลาล้างผมด้วยน้ำเปล่านอกจากผมบริเวณด้านในจะไม่สะอาดแล้วอาจจะทำให้น้ำล้างลงไปไม่ถึงท้ายทอยด้วยก็ได้ และยังทำให้แชมพูอาจจะไหลลงมาโดนผิวหน้า ทำร้ายผิวหน้า ก่อให้เกิดสิวขึ้นที่บริเวณใบหน้า หรือหากล้างทำความสะอาดแชมพูไม่หมด จะเกิดการตกค้างอยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ ! และควรใช้น้ำเย็นล้างผมเพื่อเป็นการปิดเกล็ดผมและปิดรูขุมขน ช่วยปกป้องเส้นผมจากมลภาวะให้เส้นผมเงางามแบบมีสุขภาพดี
6.เป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็น
หลังจากผ่านขั้นตอนการสระผมมาทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าขั้นตอนอื่นๆ คือ การเป่าผมให้แห้งสนิท ! คุณต้องเป่าผมให้แห้ง ไม่ว่าจะเป็นพัดลมหรือใช้ไดร์เป่าผม หรือจะใช้พร้อมกันก็ได้นะ ! จัดเต็มไปเลยให้แห้งภายใน 5 นาทีหลังอาบเสร็จเท่านั้น หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ หรือพันผ้าอบไว้ปล่อยให้ชื้น หรือรอให้ผมแห้งไปเอง เจ้าเชื้อราและเจ้าแบคทีเรียจะมาเยี่ยมเยียนคุณ ! ทั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียจะเติบโตบนหนังศีรษะจนทำให้หนังศีรษะอักเสบได้ สังเกตได้เลยว่าหนังศีรษะจากปกติกลายเป็นจ้ำ ๆ แดง ทั่วทั้งหนังศีรษะ หรือ เกิดอาการแพ้ คัน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรังแคขึ้นมาอีกด้วย !